การเลือกใช้บริการจากบริษัทรับทำเว็บไซต์ WordPress เป็นเรื่องสำคัญสำหรับธุรกิจทุกขนาดที่ต้องการมีเว็บไซต์คุณภาพสูง เพื่อช่วยส่งเสริมการตลาดออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้า บริษัทที่มีบริการหลังการขายที่ดี นั้นไม่เพียงแค่ช่วยให้คุณมั่นใจในการสร้างเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ แต่ยังช่วยสนับสนุนการใช้งานในระยะยาว ทำให้การพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์เป็นไปอย่างราบรื่น ในบทความนี้ เราจะสำรวจปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริการหลังการขายเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึง และแนะนำคุณสมบัติที่ควรมองหาในบริษัทรับทำเว็บไซต์ WordPress ในไทย
บริการหลังการขายคืออะไร?
บริการหลังการขาย เป็นการดูแลลูกค้าหลังจากที่เว็บไซต์เสร็จสมบูรณ์แล้วโดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้การใช้งานเว็บไซต์มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ต่อการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ ซึ่งบริการหลังการขายในปัจจุบันสามารถครอบคลุมการดูแลหลายด้าน เช่น
- การแก้ไขปัญหาการใช้งาน รวมถึงการอัปเดตและพัฒนาระบบ WordPress
- การตรวจสอบและปรับปรุงความปลอดภัย เพื่อป้องกันการโจมตีจากมัลแวร์หรือแฮกเกอร์
- การสนับสนุนด้านเทคนิค เช่น การแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อ โฮสต์ หรือการแก้ไขฟีเจอร์ที่มีอยู่
เหตุผลที่บริษัทรับทำเว็บไซต์ WordPress ในไทยควรมีบริการหลังการขายที่ดี
- เพิ่มความมั่นใจในการใช้งาน การที่มีบริษัทคอยดูแลเรื่องต่างๆ ของเว็บไซต์ ทำให้เจ้าของธุรกิจมีความมั่นใจว่าจะได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็วหากพบปัญหาการใช้งานหรือข้อขัดข้องใดๆ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดภาระการดูแลเว็บไซต์ในระยะยาว
- ช่วยพัฒนาเว็บไซต์ให้ทันสมัยเสมอ เว็บไซต์ที่มีการปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นในด้านของการออกแบบ ฟีเจอร์ หรือความปลอดภัย จะช่วยให้ธุรกิจมีความได้เปรียบในเชิงการแข่งขัน ทำให้เว็บไซต์ดูน่าเชื่อถือและเป็นมิตรต่อผู้ใช้งานในระยะยาว
- สนับสนุนการขยายธุรกิจ เมื่อธุรกิจต้องการขยายตัวหรือเพิ่มบริการใหม่ บริษัทที่ให้บริการหลังการขายดีจะช่วยให้การเพิ่มหรือปรับปรุงฟีเจอร์ทำได้ง่ายดายขึ้น เพราะมีความรู้และเข้าใจในโครงสร้างของเว็บไซต์ดีอยู่แล้ว ทำให้สามารถปรับปรุงได้ตรงตามความต้องการ
คุณสมบัติที่ควรมองหาในบริษัทรับทำเว็บไซต์ WordPress
- การดูแลและตอบสนองตลอดเวลา บริษัทที่มีการให้บริการหลังการขายที่ดีจะต้องมีการดูแลและตอบสนองลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเกิดปัญหาหรือคำถามเกี่ยวกับการใช้งาน ทำให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจและได้รับการสนับสนุนที่ทันสมัยอยู่เสมอ
- ทีมงานที่เชี่ยวชาญ WordPress การมีทีมงานที่เชี่ยวชาญในด้าน WordPress เป็นพิเศษจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าเว็บไซต์จะถูกดูแลอย่างถูกต้อง ตั้งแต่การปรับปรุงความปลอดภัย การแก้ไขปัญหาการทำงาน ไปจนถึงการให้คำแนะนำเกี่ยวกับปลั๊กอินที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจ
- การให้คำปรึกษาด้าน SEO บริษัทที่ให้บริการเว็บไซต์ควรมีความรู้ด้าน SEO เพื่อช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับในผลการค้นหา ทำให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ง่ายขึ้น รวมถึงช่วยให้เว็บไซต์มีโครงสร้างที่เหมาะสมในการค้นหา
- ความใส่ใจและการดูแลความปลอดภัยของข้อมูล บริษัทควรให้ความสำคัญกับการดูแลข้อมูลของลูกค้า โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยและการสำรองข้อมูล เพื่อป้องกันการโจมตีและการสูญหายของข้อมูลที่อาจเกิดขึ้นได้
- บริการอัปเดตและปรับปรุงเว็บไซต์ การอัปเดตเว็บไซต์เป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยให้เว็บไซต์ทันสมัยและปลอดภัย บริษัทรับทำเว็บไซต์ที่ดีควรมีบริการอัปเดตระบบอย่างสม่ำเสมอและการตรวจสอบการทำงานของเว็บไซต์
วิธีการเลือกบริษัทรับทำเว็บไซต์ WordPress ที่มีบริการหลังการขายดี
- รีวิวจากลูกค้าผู้ใช้งานจริง การอ่านรีวิวจากลูกค้าเก่าจะช่วยให้คุณเข้าใจถึงคุณภาพและประสิทธิภาพของบริษัท หากบริษัทได้รับคำชื่นชมในเรื่องของการบริการหลังการขาย ก็จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับคุณในการเลือกใช้บริการ
- ทดลองพูดคุยและสอบถามเงื่อนไขการให้บริการ ควรสอบถามเรื่องการให้บริการหลังการขาย เช่น การแก้ไขปัญหาในกรณีเร่งด่วน เงื่อนไขในการสนับสนุนด้านเทคนิค เพื่อให้มั่นใจว่าได้รับการดูแลครบถ้วนและตรงตามความต้องการของธุรกิจ
- ประสบการณ์และผลงานของบริษัท บริษัทที่มีประสบการณ์การทำงานในตลาดไทยจะมีความเข้าใจและสามารถปรับเปลี่ยนการให้บริการตามความต้องการของลูกค้าได้อย่างเหมาะสม
แนะนำบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการรับทำเว็บไซต์ WordPress
1. Move On Marketing
Move On เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญในการพัฒนาเว็บไซต์ WordPress และให้บริการด้าน Digital Marketing แบบครบวงจรที่สุดในไทย ครอบคลุมหลายอุตสาหกรรม มีทีมงานที่เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ พร้อมบริการหลังการขายเชิงลึก เช่น การอัปเดตระบบ การสนับสนุนการแก้ไขปัญหา และการดูแลด้านความปลอดภัย เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
2. Cz Group
Cz Group เน้นการพัฒนาเว็บไซต์ WordPress และการบริการที่ครอบคลุมทุกด้าน บริษัทนี้มีทีมงานที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น นักออกแบบ นักพัฒนา และผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO พร้อมบริการหลังการขายที่เน้นการดูแลอย่างสม่ำเสมอ และยังมีการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้งานปลั๊กอินใหม่ๆ ที่เหมาะสมกับธุรกิจของลูกค้า
3. Nerdoptimize
nerdoptimize เป็นผู้ให้บริการด้านการทำเว็บไซต์และการตลาดออนไลน์ โดยพื้นฐานแล้วจะเน้นทำ SEO เป็นหลัก แต่การทำ SEO ก็ต้องปรับเว็บไซต์ด้วย รวมถึงการวางแผนการตลาดดิจิทัล มีการให้บริการหลังการขายอย่างมืออาชีพ และมีทีมดูแลที่ช่วยในการแก้ไขปัญหาและอัปเดตเว็บไซต์อย่างต่อเนื่อง ทั้งยังมีบริการเสริมด้าน SEO และการโฆษณาออนไลน์ ทำให้เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการขยายตัว
ทุกบริษัทที่กล่าวมานี้ต่างมีจุดเด่นในด้านการให้บริการหลังการขาย และความเชี่ยวชาญในการพัฒนาเว็บไซต์ WordPress ที่แตกต่างกัน ดังนั้น การเลือกบริษัทที่เหมาะสมควรพิจารณาจากความต้องการของธุรกิจและลักษณะการให้บริการของแต่ละบริษัทครับ